
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 2 ของไทย โดยเป็นชายวัย 70 ปี ที่ต่อสู้กับโรคมานานนั้น
นางกัญญาภัทร ตันแดง อายุ 50 ปี ภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายคือ นายเอกศิษฐ์ ตันแดง อายุ 70 ปี พนักงานขับรถทัวร์ของบริษัทเอกชน
ผู้ตายเริ่มมีอาการไม่สบาย เดินไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2563 ครอบครัวพาไปรักษาตัวโรงพยาบาลเอกชน และกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านย่านมีนบุรี จนเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2563 เริ่มมีอาการไข้และหายใจไม่ออก จึงพาไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ช่วงกลางดึกก็ถูกส่งตัวต่อไปยังสถาบันบำราศนราดูร ส่วนลูกชายที่พาผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลถูกกักตัว 4 วันและถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ไม่พบ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน
นางกัญญาภัทร กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผู้ตายเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์ได้รักษาสุดความสามารถ นอกจากแพทย์จะตรวจพบเชื้อโควิด-19 ยังพบว่า ป่วยเป็นวัณโรคอีกด้วย
กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 แพทย์ได้แจ้งตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่โควิด-19 ได้เข้าไปทำลายอวัยวะภายในได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะปอดได้รับความเสียหายหนักสุด ตลอดระยะเวลาที่ผู้ตายรักษาตัว ครอบครัวได้เข้าเยี่ยมโดยใส่ชุดป้องกัน ช่วงหลังที่ไม่พบเชื้อแพทย์อนุญาตให้ใส่เพียงถุงมือและหน้ากากอนามัย รวมระยะเวลารักษาตัวกว่า 50 วัน
ทั้งนี้ ครอบครัวรับแจ้งจากแพทย์ว่าผู้ป่วยเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ให้ญาติไปติดต่อกับวัดย่านมีนบุรี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา แต่ถูกปฏิเสธ โดยให้เหตุผลไม่สามารถดำเนินการเผาศพได้ เพราะกลัวเชื้อจะแพร่ระบาดในพื้นที่ ยืนยันผู้ตายหายป่วยจากโควิด-19 ก่อนจะเสียชีวิต คนในครอบครัวทุกคนตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่ไม่พบ วิงวอนขอให้วัดอนุญาตให้ครอบครัวได้จัดงานศพ ตั้งใจจะจัดงานเพียง 3 วัน เท่านั้น
ที่มา www.thairath.co.th