'วัดโพธิสมภรณ์' อุดรยันรับเผาศพโควิด เจ้าอาวาสชี้ 'วัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้สูญเสีย'
เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ วัดอารามหลวง เมืองอุดรธานี เผย "วัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้สูญเสีย จึงเป็นการไม่สมควรที่จะไปปฏิเสธญาติโยมที่เขามีศรัทธา" ยังคงรับเผาศพตามปกติแม้ตายเพราะติดเชื้อโควิด-19 ก็รับเผา ขอเพียงเจ้าภาพปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง
พระราชสารโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธ) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวจากกรณีที่บางวัดไม่รับจัดงานศพให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ว่า "อาตมาอยากบอกว่าวัดเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้สูญเสีย จึงเป็นการไม่สมควรที่จะไปปฏิเสธญาติโยมที่เขามีศรัทธา" ในส่วนของจังหวัดอุดรธานี สถานการณ์ยังไม่ร้ายแรงขนาดนั้น เนื่องจากจังหวัดอุดรธานี ไม่ใช่พื้นที่แพร่เชื้อ
วัดโพธิสมภรณ์ ยังคงให้มีการจัดพิธีฌาปนกิจเหมือนเดิม แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันทางจังหวัดอุดรธานีได้ขอความร่วมมือกับทางวัด เช่น ในศาลาพิธีผู้ที่มาร่วมงานต้องนั่งให้ห่างกัน 1 เมตร, งดเลี้ยงอาหารแขกที่มาร่วมงานในวัด จึงได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าภาพให้ปฏิบัติตามทางจังหวัด ส่วนน้ำดื่มให้ตั้งจุดบริการไว้เฉพาะ ให้แขกที่มาร่วมงานหยิบเอง
ส่วนวันสุดท้ายของงานอนุญาตให้มีการถวายภัตตาหารเพลได้ แต่ช่วงที่สวดอภิธรรมอยู่นั้นงดถวายภัตราหารเพล และไม่ให้มีการเลี้ยงอาหารภายในงาน ข้อกำหนดเหล่านี้ทางวัดจำเป็นต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่อยู่รวมกันหนาแน่นจนเกินไปและเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมด้วย หากเจ้าภาพยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ แม้จะเป็นศพที่ติดเชื้อโควิด-19 มาทางวัดโพธิสมภรณ์ก็ยินดีที่จะให้จัดงานฌาปนกิจภายในวัดแห่งนี้ได้
ส่วนมาตรการด้านอื่นๆ ตอนนี้ ทางวัดได้ปิดพระบรมธาตุเจดีย์ งดให้เข้าสักการะจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
สำหรับรายงานการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ของศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี รายงานมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 1 ราย สรุปมีผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีขณะนี้จำนวน 8 รายผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ จังหวัดอุดรธานี มีเกณฑ์เฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด 14,117 คน ครบระยะ 14 วันแล้ว 4,289 คนยังไม่ครบ 9,828 คน
สำหรับผู้ป่วยคนที่ 8 เป็นหญิงวัย 49 ปี เป็นชาวอำเภอโนนสะอาดจ.อุดรธานี ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ อยู่ที่ประเทศอังกฤษ เดินทางกลับจากอังกฤษถึงจ.อุดรธานี วันที่ 30 มีนาคม 63 พร้อมอาการป่วยเริ่มต้น เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลโนนสะอาดเมื่อ 2 เมษายน 63 หลังตรวจพบผู้ป่วยการทีมปฏิบัติการควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคที่บ้านผู้ป่วยทันที เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนในชุมชน ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด 1 คน คือสามีผู้ป่วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพบเพื่อชี้แจงตามมาตรการควบคุม ก่อนนำเข้าสู่ระบบการสังเกตอาการและกักกันโรคแล้ว
ที่มา https://www.naewna.com/likesara/484038