พบรอยพระพุทธบาท-องค์พระนอน อุทยานฯตาพระยา พื้นที่เคยฝังระเบิดอื้อ

นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.) ที่ 1 (ปราจีนบุรี)  ว่า ระหว่าง ร่วมลาดตระเวนกับเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ได้พบเห็นรอยเท้าพระพุทธบาท 1 คู่ และพบองค์พระนอน จำนวน 1 องค์ บริเวณหลักเขตชายแดนไทย – กัมพูชา หลักเขตที่2748p0280245-utm 1571858 ซึ่งห่างจากฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 215 (ช่องบาระแนะ) ที่พิกัด 48p 0280266 e1571949 n ประมาณ 200 เมตร

 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา เจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติป้องกันรักษาป่าอ่างรัตนโกสินทร์ และเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติตำรวจตระเวนชายแดนที่ 215 (ช่องบาระแนะ) ซึ่งได้มีการถ่ายรูป จับค่าพิกัด (wgs 84) และวัดขนาดความกว้างความยาวของรอยเท้าพระพุทธบาทคู่และองค์พระนอน เบื้องต้นนั้น พบว่า 1. รอยเท้าพระพุทธบาทคู่ พบบริเวณพิกัด 48p0280587 e 1571798 n รอยเท้าแต่ละข้าง มีความยาวจากปลายเท้าถึงปลายนิ้ว ยาว 156 เซนติเมตร และมีความกว้างของรอยเท้า ระยะ 46 เซนติเมตร ซึ่งมีความกว้างและความยาวเท่ากัน

2.องค์พระนอน พบบริเวณพิกัด 48p 0280597 e1571768 n มีความยาว 1.65 เมตร ความสูง 40 เซนติเมตร บริเวณใกล้เคียงกับพระนอน พบหลักหินเล็ก จำนวน 2 หลัก สูงประมาณ 30 เซนติเมตร สลักเป็นภาษาเขมร ปรากฏตามภาพถ่าย ซึ่งบริเวณที่พบเห็นดังกล่าวเป็นหน้าผาสูง บนเทือกเขาบรรทัด และเป็นพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลและประวัติความเป็นมา ยังไม่พบข้อมูลทางประวัติศาสตร์และข้อมูลทางวิชาการแต่อย่างใด

 “เบื้องต้นนั้นเรายังไม่มีหลักฐานอะไรชี้ชัดว่าทั้งรอยพระพุทธบาท และองค์พระที่พบนั้นเป็นของจริง หรือไม่อย่างไร แต่สังเกตเบื้องต้นแล้วสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นของเก่าจริง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของเราประสานงานกับทางกรมศิลปากรให้เข้าไปตรวจสอบแล้ว” นายนิพนธ์ กล่าว

 ด้านนายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดทส. กล่าวว่า บริเวณที่เจ้าหน้าที่พบทั้งรอยพระพุทธบาท และองค์พระนั้น เดิมเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว และไม่ค่อยปลอดภัยมากนัก พบว่ามีการฝังระเบิดเอาไว้หลายจุด แต่ต่อมาเมื่อมีการเคลียร์พื้นที่จนปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว ก็มีการเข้าไปพบโดยชาวบ้าน แต่ยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการ พื้นที่ที่พบนั้นอยู่ในแนวเดียวกับโบราณสถานอื่นๆ ที่พบมาก่อนหน้านี้ เช่น ปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทเขาตาทม คาดว่า ทั้งรอยพระพุทธบาท และองค์พระที่เจ้าหน้าที่พบมานั้น คงเป็นส่วนประกอบของปราสาทดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังกรมศิลปากร โดยเบื้องต้น ต้องไปเปิดพงศาวดาร หรือจดหมายเหตุก่อนว่า มีข้อมูลในเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร เพื่อทำการสำรวจ และหารายละเอียดเพิ่มเติม

 “ถือเป็นเรื่องน่ายินดีกับการพบวัตถุโบราณเช่นนี้ หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรแล้ว ก็ต้องดูข้อมูลว่า เรื่องราวที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราพบนั้นอยู่ในจดหมายเหตุ หรือพงศาวดารฉบับไหนหรือไม่ ถ้ามี เราอาจจะต้องสำรวจเพิ่มเติมในรัศมี 1-2 กิโลเมตร จากจุดดังกล่าวซึ่งลำพังเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรอาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะเป็นพื้นที่ชายแดน อาจจะต้องอาศัย ทางทหาร และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปช่วยด้วย”นายเกษมสันต์ กล่าว

ที่มา ข่าวสด

 

 

อ่านต่อ


Total View: 532
Post Date: 20 Jul 2015


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ การเข้าชมเว็บไซต์นี้ต่อไปถือว่าท่านยอมรับคุกกี้บนเว็บไซต์และ  นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดที่ระบุไว้