ศิษย์อาลัย สิ้นเกจิ-วัดศีรษะทอง เจ้าอาวาสดัง ลื่นล้ม ต้นตำรับ-ไหว้บูชาราหู สิริอายุ 62 ปีพรรษา34
สลด!สิ้นพระเกจิดังเจ้าอาวาสวัด ศีรษะทอง (พระราหู) วัดดังเมืองนครปฐม เผยลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น เลือดคั่งในสมอง มรณภาพอย่างสงบสิริอายุรวม 62 พรรษา 34 นับเป็นการสูญเสียพระเกจิดังที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนแห่มาต่อดวงชะตาหาก มีพระราหูเข้าแทรก ทำพิธีไหว้สิ่งของดำ 7 อย่างเพื่อสะเดาะเคราะห์ จนเลื่องลือสร้างชื่อให้กับวัด คณะพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้เคลื่อนศพตั้งที่ศาลา 198 ปี ณ วัดศีรษะทอง ในหลวงพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ โดยกำหนดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ รวม 6 คืน หลังพิธีสวดจะนำสังขารส่งมอบร.พ. ศิริราชเป็นอาจารย์ใหญ่ ตามพินัยกรรมที่ เจ้าอาวาสเขียนระบุไว้ก่อนมรณภาพ
เมื่อเวลา 08.22 น. วันที่ 10 ม.ค. ร.ต.ท.โกวิท สุขบุญทอง ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากร.พ.ศูนย์นครปฐมว่า มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพที่ตึกไอซียู ศัลยกรรมอุบัติเหตุชั้น 2 ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาร่วมชันสูตร หลังรับแจ้งไปตรวจสอบทราบชื่อต่อมา พระครู สิโรตม์สุวรรณารักษ์ นามเดิมนายมานิตย์ บุญมีลาภ อายุ 62 ปี เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง หรือวัดพระราหู รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี จ.นครปฐม วัดดังเจ้าตำรับพระราหูแห่งแรก สาเหตุเนื่องจากลื่นล้มถูกนำตัวมารักษาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 59 โดยนพ.ประกันพงษ์ จันทรวิทูร แพทย์เวรร.พ.ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากศีรษะได้รับการกระแทกอย่างแรง จนเลือดคั่งในสมอง
ต่อมาเวลา 15.00 น. คณะพระสงฆ์และลูกศิษย์ของพระครูสิโรตม์สุวรรณารักษ์ หรือหลวงพ่อมานิตย์ ได้เคลื่อนย้ายศพหลวงพ่อออกจากร.พ.ศูนย์นครปฐม เพื่อนำศพไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดศีรษะทอง ถึงเวลา 15.15 น. พร้อมร่วมกันจัดให้มีพิธีรดน้ำศพของหลวงพ่อมานิตย์ ณ ศาลาการเปรียญหลังใหญ่บูรณะใหม่ 198 ปี พร้อมเปิดให้ประชาชนและศิษยานุศิษย์ได้ร่วมรดน้ำศพและกราบลาเป็นครั้งสุด ท้ายในเวลา 16.00 น. ไปจนถึงเวลา 16.50 น.
จากนั้นเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯพระราชทานให้ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง อัญเชิญน้ำหลวงสรงศพพระราชทานมาถึงศาลาการเปรียญ เพื่อประกอบพิธีรดน้ำหลวงสรงศพพระราชทานและประกอบพิธีบรรจุศพลงหีบศพ พระสงฆ์สวดพระอภิธรรม 1 จบ จากนั้นเวลา 19.00 น. พระมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม มาเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรม ทั้งนี้มีกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ จะมีการสวด รวม 6 คืน และในวันที่ 16 ม.ค.59 หลังจากเลี้ยงพระเพลแล้วจะนำร่างคืนสู่ทางร.พ.ศิริราช กทม. ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อมานิตย์ที่ระบุตามพินัยกรรมฉบับสุดท้ายที่ระบุไว้ ชัดเจนตอนที่มีชีวิตอยู่และมีสติสัมปชัญญะว่า ให้บริจาคร่างกายแก่ร.พ.ศิริราช ซึ่งจะต้องทำตามพินัยกรรมที่ทำไว้ การมรณภาพของหลวงพ่อมานิตย์ เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง ได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับชาวอ.นครชัยศรี และประชาชนจังหวัดใกล้เคียงที่เลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก เนื่องจากท่านเป็นบุคคลที่นับว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ที่มีความ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านอีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มากด้วยพุ ทธาคม หากวัดไหนมีพิธีปลุกเสกจะต้องมีชื่อของท่านร่วมทำพิธีในงานศาสนพิธีโดยตลอด
รายงาน ว่า หลวงพ่อมานิตย์ เจ้าอาวาส ได้ออกวัตถุมงคลรุ่นแรก เป็นเหรียญ หลวงพ่อมานิตย์ โดยจะมีพิธีปลุกเสกใหญ่ในวันที่ 15 ม.ค.59 ที่จะถึงนี้ แต่ท่านเกิดล้มศีรษะกระแทกพื้นก่อนถูกนำส่งไปพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. กระทั่งท่านได้มรณภาพ
ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่ศาลา 198 ปี วัดศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่นำสังขารของพระครูสิโรตม์สุวรรณารักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง มาตั้งบำเพ็ญพิธีทางพุทธศาสนา หลังจากท่านมรณภาพลงด้วยอาการสงบ จากเลือดคั่งในสมอง และโรคประจำตัวอีก 2-3 โรค โดยคณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศานิกชนเข้าสรงน้ำศพเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเวลา 17.30 น.จะได้รับพระราช ทานน้ำหลวงสรงศพ ก่อนจะนำสังขารท่านบรรจุหีบไม้สักเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐมเป็นประธาน พร้อมคณะสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดในจังหวัดสังกัดมหานิกายร่วมในพิธี มีพระสงฆ์ และฆราวาสมาร่วมพิธีกว่าพันคน
พระมหากาเหว่า ชาติสิริ พระเลขาฯ รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง เปิดเผยว่า พระครูสิโรตม์สุวรรณารักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง ได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อเช้ามืดวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ท่านล้มแต่ท่านบอกไม่เป็นอะไรและไม่ยอมไปหาหมอ ต่อมาวันที่ 3 ช่วงหัวค่ำมีอาการเบลอ จำใครไม่ได้จึงนำส่งร.พ.กรุงเทพคริสเตียนนครปฐม แต่อาการหนักจึงส่งต่อไปผ่าตัดที่ร.พ.ศูนย์นครปฐม ทำการผ่าตัดเจาะเอาเลือดที่คั่งในสมองออก หลังผ่าตัดโดยการเจาะเอาเลือดที่คั่งออก อาการท่านก็ดีขึ้นพอจำใครได้แต่พอวันที่ 2 หลังการผ่าตัดอาการท่านก็ทรุดลงและได้สิ้นลมอย่างสงบเมื่อเช้าวันที่ 10 ม.ค.59 เวลาประมาณ 08.22 น. ด้วยสิริอายุ 62 พรรษา 34 เป็น เจ้าอาวาสวัดศีรษะทองมากว่า 28 ปี
ด้านการจัดเตรียมการ เรื่องพิธีศพท่านทางคณะสงฆ์ของวัดมีมติพร้อมกันว่าตั้งศพประกอบพิธี 6 คืน ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. ถึง วันที่ 15 ม.ค.59 เช้ารุ่งขึ้นวันที่ 16 ม.ค. มีพิธีทำบุญ 7 วัน จากนั้นจะมอบสังขารท่านให้ร.พ.ไปเป็นครูใหญ่ ซึ่งท่านได้บริจาคร่างกายไว้ จากนั้นอีก 3 ปีจึงจะนำสังขารท่านกลับมา
ประวัติ พระครูสิโรตม์สุวรรณารักษ์ อายุ 62 พรรษา 34 วิทยาฐานะ นักธรรมชั้นเอก ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี นามเดิมพระครูสิโรตม์สุวรรณารักษ์ ชื่อนายมานิตย์ นามสกุล บุญมีลาภ เกิด ปีวอก เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2497 บิดาชื่อ นายฉิน บุญมีลาภ มารดาชื่อ นางสายทอง นาวารัตน์ ที่บ้านเลขที่ 63 ม.1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เคยรับราชการทหาร ที่กรมอากาศโยธิน กองพันที่ 1 รักษาพระองค์ อุปสมบท วันเสาร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเมีย หรือวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 ณ วัดกลางบางแก้ว ต.นครชัยศรี อ.นคร ชัยศรี จ.นครปฐม
การศึกษา สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ.ศ.2408 โรงเรียนวัดศีรษะทอง จ.นครปฐม พ.ศ.2525 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม มีความชำนาญการทางด้านนวกรรมการก่อสร้าง, การออกแบบ เป็นต้น งานการปกครอง พ.ศ.2535 เป็นเจ้าอาวาสวัดศีรษะทอง พ.ศ.2538 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2540 เป็นเจ้าคณะตำบลโคกพระเจดีย์ พ.ศ.2544 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2543
ที่มา ข่าวสด