เห็นความสำคัญของทั้ง 3 วันอย่างนี้แล้ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวไทยเราถึงนิยมทำบุญ ไหว้พระ สรงน้ำพระ พร้อมๆ กับคนในครอบครัวเพื่อต้อนรับศักราชใหม่ วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ เลยขอแนะนำเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ที่มีความหมายเป็นสิริมงคล เสริมดวง หนุนนำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองตลอดปีมาฝากกัน ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูได้เลย

ไปวัดนอกจากได้ท่องเที่ยวแล้ว ยังได้ไหว้พระทำบุญ สบายใจไปอีก

1. วัดชนะสงคราม ถนนพระอาทิตย์

ใครมาไหว้พระทำบุญที่วัดนี้ เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง และว่ากันว่าเป็นวัดที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำน้ำมนต์ให้กับราชสำนักตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน หากไปสรงน้ำพระที่นี่แล้วก็อย่าลืมไปรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เอามาประพรมตัวหรือผสมน้ำอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยล่ะ

2. วัดภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร)

ในย่านเดียวกัน เดินทางไปต่อกันที่ วัดภูเขาทอง วัดที่มีความงดงามชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความที่มีเจดีย์บนเนินเขาสูงเป็นแลนมาร์คสำคัญ เป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมารัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงโปรดให้บูรณะ มีความเชื่อว่า ใครไปไหว้พระที่วัดนี้จะช่วยเสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล

องค์เจดีย์บนยอดภูเขาทอง

เดินขึ้นภูเขาทอง

3. วัดสุทัศนเทพวราราม

ถัดมาจะชวนไปต่อที่ วัดสุทัศน์ฯ ซึ่งอยู่ในย่านเดียวกัน ใกล้กับเสาชิงช้านี่เอง (ติดกับศาลากลางกรุงเทพฯ และเสาชิงช้า) ภายในพระวิหารของวัดแห่งนี้ ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี เป็นพระประธาน ถูกอัญเชิญมาจากสุโขทัย ผู้คนนิยมมาสักการะของพรเพราะเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามาไหว้พระที่นี่จะเสริมดวงให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถแวะสรงน้ำพระพักตร์เทวรูป และพระพุทธสิหิงค์ได้

4. วัดกัลยาณมิตร

วัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความหมายมงคลอีกแห่งก็คือ วัดกัลยาณมิตร มีความเชื่อกันว่า มาไหว้พระที่นี่แล้วจะช่วยให้แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี ผู้คนทั้งชาวไทยและชาวจีนนิยมมาสักการะหลวงพ่อโต หรือซำปอกง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ช่วยให้มีความก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโต เป็นต้น


วัดกัลยาณมิตร เชื่อว่าจะได้สิริมงคลและมิตรที่ดี

5. วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)

วัดนี้โด่งดังในแวดวงของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆ ใครที่มาเที่ยวเมืองไทยก็ต้องแวะมาชมความสวยงาม วัดพระแก้ว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของกรุงเทพฯ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นวัดในมหาราชวัง ภายในประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปหยกที่สวยงามแปลกตา ใครที่ได้มาสักการะ เชื่อกันว่าจะช่วยให้จิตใจสะอาดผ่องใส สงบ ดุจดั่งพระรัตนตรัย


6. วัดโพธิ์ (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม)

วัดแห่งนี้โด่งดังเรื่อง องค์พระนอน ที่มีขนาดใหญ่และสร้างได้งดงามมาก (ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ) ที่นี่เป็นวัดที่คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 บริเวณรอบวัดรายล้อมไปด้วยเจดีย์น้อยใหญ่มีทั้งหมด 99 องค์ ใครที่ได้ไปไหว้พระวัดแห่งนี้เชื่อกันว่า จะได้รับความร่มเย็นเป็นสุข


ไปสักการะองค์พระประธาน

7. วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม)

เคยได้ยินคำว่า ยักษ์วัดแจ้ง กันมั้ย? วัดแห่งนี้นี่เองที่เป็นที่มาของยักษ์วัดแจ้ง ว่ากันว่ายักษ์ที่เฝ้าวัดมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ใครที่จะเข้ามาขโมยของ หรือทำสิ่งไม่ดีภายในวัด มักจะพบเหตุการณ์แปลกประหลาดอยู่เสมอ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช หลังจากกอบกู้เอกราชได้สำเร็จแล้ว จึงเป็นวัดเก่าแก่ที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธา ภายในวัดมีพระพุทธรูปจำลองหลายองค์ สามารถสรงน้ำและสักการะได้ เชื่อกันว่ามาไหว้พระที่นี่จะทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์
 

8. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวง มีพระสังฆราชพำนักอยู่หลายพระองค์ และยังเป็นที่พำนักของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ที่เสด็จออกผนวช นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสักการะ พระไพรีพินาศ พระประธานของวัดแห่งนี้ ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ได้มาประดิษฐานในสมัยรัชกาลที่ 3 หากใครมาไหว้พระที่วัดนี้เชื่อกันว่า จะได้พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต

ร่วมกันสวดมนต์รับปีใหม่ไทย

9. ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร 

ปิดท้ายกันที่ ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในปี 2559 นี้ ทุกคนควรไปไหว้สักการะศาลหลักเมืองรับปีใหม่ไทยมากที่สุด เพราะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงดวงเมือง รวมถึงมีผลกระทบทั้ง 12 ราศี เนื่องจากมีดาวมฤตยูโคจรมาทับดวงเมือง และอิทธิพลของดาวนี้จะอยู่ยาวถึง 7 ปี การขอพร 'เสาหลักเมือง' ถือว่าเป็น 'หลักชัย' สร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้ก้าวข้ามดาวมฤตยูไปได้ด้วยความมั่นคง การขอพรที่ศาลหลักเมืองไม่ได้เป็นการขอพรให้ตัวเราเองเพียงเท่านั้น แต่จะเป็นการขอพรเพื่อดวงเมืองด้วย และมีความเชื่อว่า คนที่ไปสักการะที่นี่จะช่วยตัดเคราะห์ ต่อชะตาเสริมวาสนาบารมี

ที่มา ไทยรัฐ