เริ่มมีมาในครั้งพุทธกาล
จนเป็นธรรมเนียมของการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปให้แก่ผู้ตาย
ของชาวพุทธเราจวบจนปัจจุบันนี้
ดังนั้น เมื่อเรานึกถึงคุณความดีของผู้ล่วงลับไปแล้ว
ก็ควรทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย
โดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องหรือญาติๆ ที่มีอุปการคุณแก่เรา
เราควรตอบแทนบุญคุณท่านด้วยการทำบุญไปให้
เป็นหน้าที่อีกอย่างของบุตรธิดาที่ต้องทำเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว
เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา
การทำบุญอุทิศให้ผู้ตายในวาระครบรอบวัน นิยมมี ๓ วาระ คือ
ครบรอบ ๗ วัน เรียกว่า ทำบุญสัตมวาร
ครบรอบ ๕๐ วัน เรียกว่า ทำบุญปัญญาสมวาร
และครบรอบ ๑๐๐ วัน เรียกว่า ทำบุญศตมวาร
สัตมวาร
อ่านว่า “สัด-ตะ-มะ-วาน” ไว้ว่า
วันที่ครบ ๗, วันที่ ๗ ใช้ว่า สัตตมวาร ก็มี
ปกติใช้เรียกกำหนดการทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายเมื่อครบ ๗ วัน เรียกว่า ทำบุญสัตมวาร
เรียกทั่วไปว่า ทำบุญ ๗ วัน เช่นใช้ว่า
“กำหนดการทำบุญบำเพ็ญกุศลสัตมวาร”
“เนื่องในการทำบุญครบรอบสัตมวารของนาย........
ขออาราธนาพระคุณเจ้าไปสวดพระพุทธมนต์และฉันภัตตาหารเพล...”
ปัญญาสมวาร
ถ้าเป็นการทำบุญ ๕๐ วัน เรียกว่า ทำบุญปัญญาสมวาร อ่านว่า ปัน-ยา-สะ-มะ-วาน”
ใช้ในการนับวันเวลาของเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่มาบรรจบครบ ๕๐ วัน
ปกติใช้นับวันเวลาการตายของบุคคล
ศตมวาร
ส่วนคำว่า “ศตมวาร” อ่าว่า “สะ-ตะ-มะ-วาน”
เจ้าคุณทองดีได้ให้ความหมายไว้ว่า วันที่ครบ ๑๐๐ วันที่ ๑๐๐ เขียนว่า สตมวาร ก็มี
ใช้ในการนับวันเวลาของเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่มาบรรจบครบ ๑๐๐ วัน
ปกติใช้นับวันเวลาการตายของบุคคล
และมีการทำบุญอุทิศไปให้ผู้นั้นเนื่องในวันครบ ๑๐๐ วัน
เรียกการนี้ว่า ทำบุญศตมวาร
จากหนังสือ "คำวัด"
โดย พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต)
เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม
ที่มา : http://bethehistory.blogspot.com/